ปริศนาแผ่นดินแตกของ ทรงผมชาย ที่หัวล้าน!!

ชายหัวล้าน และ ทรงผมชาย

ตัวปัญหาโลกมนุษย์แตกของ ทรงผมชาย ที่หัวโล้น!!

     วันนี้จะมานำทูลเรื่องราวเกี่ยวกับทรงผมชายทรงหนึ่งซึ่ง ทรงผมชาย ที่จะอื้นต่อไปนี้ เป็นทรงที่ไม่จำเป็นต้องออกแบบอะไรให้มากความ หรือ เรียกง่ายๆว่าเป็น ทรงผมชาย ที่ไม่มีลูกผู้ชายคนใดอยากให้ปรากฏกับตนเอง 

     ชายจำนวนนับพันนับล้านคนที่มีกะโหลกล้าน เพ่งพิศมองตนเองในกระจกแล้วเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า...ทำไม...ผมของเรามันถึงได้หลุดร่วงบางลงไปทุกวันๆ  ทำไมคนอื่นเขามี ทรงผมชาย ที่หล่อๆเท่ๆดกดำกันได้   แต่เรากลับกลายเป็นคนศีรษะล้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้    ซึ่งผมเชื่อว่า มีปริมาณคนนับไม่น้อยที่เกิดปัญหากับทรงผมของตนเองนี้  ทำให้มีผลพวงต่างๆตามมาอย่างมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นชีวิตในการทำงาน หรือ การออกสังสรรค์ในสังคม รู้สึกเหนียมใจและไม่อยากประจันหน้ากับผู้อื่น ทำให้ไม่มีความแน่ใจในตนเองและส่งความกระทบกระเทือนต่างๆตามมาอย่างมากมาย   ซึ่งผิดกับคนที่มีทรงผมชาย ที่สามารถเพิ่มเติมบุคคลิกได้เป็นอย่างดี     

     ต้องขอชื่นชมเหล่าเวชแห่งรัฐฟลอริดา เพราะได้ศึกษาค้นคว้าหาข้อสรุปของผู้ชายที่มีอาการศรีษะล้านไม่มี ทรงผมชาย ที่ดกดำแบบผู้อื่น    ซึ่งการมีผลการค้นคว้าออกมาครั้งนี้อาจเป็นแนวทางในการแวดเยียวยาอาการศีรษะล้านได้     อย่างที่เรารู้กันว่าฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อ เทสโทสเตอโรน (testosterone) เป็นเค้ามูลหนึ่งที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วง แต่ข้อมูลนี้ก็ยังไม่แจ่มแจ้งนัก  กระทั่ง มาร์ตี้ ซาวายา ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังและคณะนักวิจัยแห่งโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยไมอามี  ได้ตะแหง่วๆวิจัยค้นหาคำตอบถึงปัญหาศรีษะล้านให้กระจ่าง โดยทำการทำความเข้าใจทดลองตัวอย่างหนังศีรษะจากผู้ชายจำนวน 60 คน

     แล้วพวกเขาก็พบว่า ตรงเซลล์รากทรงผมชายนั้นมีโปรตีนอยู่ 2 ชนิด 

ชนิดแรกคือมีโมเลกุลขนาดเล็ก และอีกชนิดมีโมเลกุลขนาดใหญ่ โปรตีนทั้งสองนี้มีความสัมพันธ์กับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนด้วย  และเมื่อใดที่โมเลกุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้ปนเชื่อมกับโปรตีนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มันจะพากันเข้าไปภายในเซลล์รากเส้นผม และล้มส่วนที่ผลิตเส้นผม แต่ถ้าหากโมเลกุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเชื่อมกับโปรตีนที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มันจะเกาะกันอยู่แค่ภายนอกเซลล์รากผม ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

     ทีมนักวิจัยได้ทำการอุปมัยเซลล์หนังศรีษะบริเวณที่ล้านโล่งกับบริเวณทรงผมชายที่มีเส้นผมดกดำเต็มในตัวผู้ชายคนเดียวกัน และได้ข้อสรุปว่า ตรงส่วนหนังศีรษะที่ล้านโล่งนั้นมีโปรตีนขนาดเล็กปรากฏมากกว่าตรงส่วนที่เส้นผมขึ้นเต็ม บริเวณที่มีผมบางๆ หรือไม่มีผมเลยนั้น มีโปรตีนขนาดเล็กมากเป็นสองเท่าของโปรตีนขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน เซลล์รากเส้นผมที่แข็งแรงก็มีโปรตีนขนาดใหญ่อยู่ประมาณ 2 ½ เท่า ซาวายากล่าว

     และมีคำถามต่อมาอีกว่า การที่คนเราจะมีศีรษะล้านนั้น บริเวณใดที่จะล้านก่อนเป็นอันดับแรก และเร็วหรือช้าแค่ไหน

     ซาวายากล่าวว่า  จะเป็นส่วนบริเวณที่ล้านจะอยู่ตรงที่เซลล์รากเส้นผมที่เชื่อมเกาะติดโปรตีนขนาดเล็ก ส่วนจะล้านเร็วหรือช้าโดยส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณของโปรตีนทั้งสองชนิดที่แต่ละคนได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่ตามพันธุกรรม ถ้าใครที่พ่อแม่ศีรษะล้านตรงไหน ลูกชายก็มักจะล้านตามตรงส่วนนั้น  และส่วนของผู้หญิงนั้นซาวายากล่าวว่า ผู้หญิงจะไม่ล้านอย่างเด็ดขาด อย่างมากแค่มีผมบางเท่านั้น

คณะนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยไมอามี ได้สรุปผลและยกตัวอย่างแนวทางแก้ไขรักษาอาการศีรษะล้านที่มีทางเป็นไปได้ นั่นคือ ต้องหาบางบางอย่างมาสกัดกั้นไม่ให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในเซลล์รากเส้นผมที่แข็งแรงมาเชื่อมผสานกับโปรตีนขนาดเล็ก ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้เซลล์ผลิตเส้นผมไม่ได้   เรายังคงต้องศึกษาต่อไป

สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะเป็นแรงใจให้ผู้ชายที่ประสบปัญหากับกระบาลล้านอยู่ว่า อย่าไปกลัว อย่าไปเก้อเขินขอแค่เรามีความแน่ใจและรอเทคโนโลยีต่างๆพัฒนามากขึ้นซึ่งผมมั่นใจว่า ในภายภาคหน้าเราต้องได้รับข้อมูลดีมาให้เป็นรางวัลของคนที่มีศรีษะล้าน ให้กลับมามีทรงผมชายที่ดกดำอย่างแน่นอน